14 มิถุนายน, 2551

Modern Fencing Sport

13 มิถุนายน, 2551

3rd Air Force Fencing Open ดาบเซเบอร์ ไร้ เทียม ทาน ได้เหรียญทองแล้ว 5 จาก6 เหรียญ รอ อีกเหรียญเดียว


ถึงแม้อุปสรรครูปแบบเดิมๆจากปัญหาการตัดสินของกรรมการยังคงมีอยู่ เราก็ต่อสู้ด้วยฝีมือ ด้วยความสามารถ ด้วยความมุ่งมั่น ด้วยความตั้งใจ กันต่อไป นับวันในวงการฟันดาบที่ชมรมเราเรียนรู้มา เรายิ่งเห็นชัดเจนมากขึ้นว่า ความพยายามในการเอาชนะโดยใช้เทคนิคของการตัดสินนั้นส่งผลไม่ดี กับตัวนักกีฬาเองโดยตรง เมื่อนักกีฬาเข้าร่วมการแช่งขันในระดับสากล ที่รูปแบบการตัดสินมีความเป็นกลาง และมีมาตรฐาน แล้วความภูมิใจเล็กๆ จากชัยชนะของปลอมจะไม่ยั่งยืน รวมไปถึงเทคนิคการจัดการแข่งขัน ที่ไม่น่าทำ อันดับมือวางมี แต่ไม่นำมาใช้ แล้วจะพัฒนามาตรฐานการจัดการแข่งขัน ไปสู่ความเป็นสากล เมื่อไหร่ เพียงเห็นแค่ว่าเป็นผู้จัดจะทำอย่างไรก็ได้นั้น ขอเตือนให้ทบทวนใหม่ เพิอส่วนรวมของกีฬา อย่าทำให้กีฬานี้หมองมัว สำหรับชมรมเราถือว่า เก่งไม่กลัว (ได้พัฒนาฝีมือ) แต่กลัวโกง (ไม่ใช่แพ้ไม่ไ้ด้ แต่ การโกงเป็นการทำลายกีฬานี้โดยตรงในทุกแง่มุม) อย่างไรก็ดีชมรมเรายังมีความเชื่อมั่นว่า
วงการกีฬาฟันดาบของประเทศไทยเราจะยังคงพัฒนาการไปในทางบวกอย่างต่อเนื่อง

พี่พลอยไม่ได้ลงเล่นในรุ่นอายุไม่เกิน17ปี ที่แชมป์เป็นของชมรมเรามาต่อเนื่องห้าปีติดต่อกัน ภาระจึงตกไปอยู่กับน้องแป้งที่ต้องเก็บเหรียญนี้ให้ได้ แล้วน้องแป้งก็ไม่ทำให้
ผิดหวัง ชมรมเรายังเป็นแชมป์เหรียญทองต่อเนื่องกันเป็นปีที่หก สำหรับในรุ่นอายุไม่เกิน20ปี ตามคาดพี่พลอยก็ยังคงรักษาแชมป์ไว้ได้ติดต่อกันเป็นปีที่ห้า ในรุ่นทั่วไป
พี่พลอยก็ยังเก็บเหรียญทองได้ แถมน้องแป้งได้เหรียญทองแดง สรุปดาบเซเบอร์หญิงในระดับเยาวชนทั้งสองรุ่น17และ20ปีชมรมStar Fencing ยังครองความเป็นจ้าวดาบเซเบอร์ ติดต่อกันมากว่าครึ่งทศวรรษแล้ว รวมถึงในรุ่นทั่วไป หญิง ด้วย
อีกความภูมิใจของชมรมน้องโอ๊ตของเราเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นทุกวัน เอาชนะแชมป์นักเรียนอาเซียน ชาวจีนมาเลย์ได้ในรายการ World Cup Men's Sabre Bangkok 2008
ต่อมาได้เหรียญทองแดง ในรายการ 1st Police Fencing แล้วมาเก็บ สองเหรียญทอง
จากรุ่นอายุไม่เกิน 17และ20ปี ซึ่งเป็นครั้งแรกของชมรม ที่ได้แชมป์จากสองรุ่นนี้
ดาบเอเป้หญิงรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี เข้าชิงพลาดแต้มเดียวได้รองแชมป์เหรียญเงิน คราวหน้าจะเห็นชมรมเราแสดงฝีมือในดาบเอเป้ต่อไป

สรุปเหรียญจากรายการ 3rd Air Force Fencing Open ครั้งนี้ ( 5 ทอง,1 เงิน ,1 ทองแดง )
5 เหรียญทอง ดาบเซเบอร์ 17ปี ชาย-หญิง, 20ปีชาย-หญิง, ทั่วไป หญิง
1 เหรียญเงิน ดาบเอเป้ 20ปี หญิง
1 เหรียญทองแดง ดาบเซเบอร์ ทั่วไป หญิง

ชมรม Star Fencing ขอขอบคุณ ท่านผู้ปกครองที่อยู่เบื้องหลังให้กำลังใจ ให้การสนับสนุนและร่วมมือกันช่วยลูกหลานคนละไม้คนละมือจนชมรมของเราได้รับความสำเร็จตามที่ได้มุ่งหวังไว้

กราบรำลึกถึงพระคุณ ท่านอาจารย์ สมัย เมษะมาน โรงเรียนสำนักดาบพุทไธศวรรย์ แห่งกรุงศรีอยุธยา ( ครูดาบ ของผู้ฝึกสอน STAR FENCING CLUB )

วัดพุทไธศวรรย์ เดิมเคยเป็นเขตพระราชฐาน ในที่รู้จักกันว่า เวียงเหล็ก หรือเวียงเล็กซึ่งเดิมก็มีการฝึกดาบ กระบี่กระบองกันเป็นปกติวิสัย ล่วงถึงศักราชที่ 715 เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ ( พระเจ้าอู่ทอง ) ทรงสถาปนาพระตำหนักเวียงเหล็กนั้นเป็นพระอารามหลวง แล้วให้นามชื่อ “ วัดพุทไธศวรรย์ “ ในการต่อมาก็ได้มีการเล่าถึงสำนักดาบแห่งนี้ ซึ่งเปรียบเสมือนแหล่งวิชาแห่งแรกของไทย สั่งสอนอบรมศิลปะทุกแขนง แม้กระทั่งยุทธศาสตร์
ยุทธวิธีทางการเมือง การปกครอง แม้องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเอกาทศรถ พระเจ้าตากสิน พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระยาสุรสีย์บวรราชาเจ้าตลอดจนขุนพล ขุนศึก กำลังพล ต่างฝึกซ้อมอาวุธเพื่อเตรียมความพร้อมไว้ในยามศึก สืบเนื่องยาวนานดังปรากฎ ในบทเหเรือพยุหยาตราทางชลมารค ครั้งรัชกาลที่ 4 ส่วนข้อมูลลึกมากๆ คงต้องศึกษากันตามจดหมายเหตุอีกครั้ง

วัดพุทไธศวรรย์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ในตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดเก่าแก่
ในปี พ.ศ. 2310 วัดพุทไธศวรรย์ก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่มิได้ถูกพม่าทำลายเหมือนวัดอื่น ๆ ตามประวัติศาสตร์
เป็นที่พำนักพักพิงของยอดฝีมือดาบสองมือที่เลิศที่สุดในแผ่นดิน เรียกว่า “สำนักดาบพุทไธศวรรย์” เพราะที่นี่บรรดาแม่ทัพนายกองและทหารหาญ นิยมมาออกบวชเป็นพระภิกษุ บางรูปก็บวชไม่สึก ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นศูนย์รวมสรรพวิชาทั้งพุทธศาสนา วิชาอาคมและการปกครองมาตั้งแต่โบราณ

ณ ช่วงเวลาปัจจุบัน ผู้ซึ่งผลักดันให้ทุกคนได้รู้จักตำนานแห่งวัดพุทไธศวรรย์ที่ก้าวผ่านช่วงเวลามากว่า 650 ปี อาจารย์สมัย เมษะมาน ท่านเป็นชาวอยุธยาโดยกำเนิด และผูกพันกับวัดพุทไธศวรรย์ อย่างลึกซึ่ง ได้ใช้ช่วงเวลา ในชีวิตของท่าน เพียรสอนศิษย์ด้วยยุทธศาสตร์ ศาตราวุธ สำนักดาบพุทไธศวรรย์ และได้ขออนุญาตจดทะเบียนเป็นโรงเรียน ใช้ชื่อว่า “โรงเรียนสำนักดาบพุทไธศวรรย์ แห่งกรุงศรีอยุธยา ” ณ บริเวณสี่แยกบ้านแขก กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 6 พย.2500 ต่อมาได้ย้ายมาที่ ตั้งอยู่ที่สมาคมศิยย์เก่าสำนักดาพุทไธสวรรย์ เลขที่ 5/1 เขตหนองแขม กทม.1160 ติดถนนเพชรเกษมระหว่างซอยเพชรเกษม106-108 ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้สอนชมรม สตาร์เฟนซิ่ง ได้มีโอกาส
ร่ำเรียนวิชาดาบสองมือ และอาวุธโบราณของไทย ครั้งเมื่ออายุ 12 ปี จนกระทั่งเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ท่านอาจารย์ได้กรุณาศิษย์ทุกคน ถ่ายทอดความรู้ ภูมิปัญญาที่ท่านมีอยู่ ด้วยความเมตตา และทุกวันนี้ สิ่งที่ท่านสอน ได้มีส่วนเป็นอย่างมากในการนำมาใช้ถ่ายทอดให้กับนักฟันดาบสากลในชมรมสตาร์เฟนซิ่งรุ่น
ต่อๆมา ดาบหนึ่งในแผ่นดิน กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี คำกล่าวนี้เป็นจริงทุกยุคสมัย


ปัจจุบันคำเรียกสำนักดาบพุทไธศวรรย์ หรือพุทไธสวรรย์ เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น ถึงขนาดที่บางประเทศก็มีการสอนยุทธศาสตร์ ศาตราวุธ ที่นำเสนอว่าเป็น สำนักดาบพุทไธศวรรย์ อย่างเต็มภาคภูมิ ปัจจุบันก็ยังมีกลุ่มเยาวชนที่ใคร่ศึกษาในยุทธศาสตร์ด้านนี้ ทำการศึกษาอยู่ที่วัดพุทไธศวรรย์โดยเรียกขานว่า "ฟ้าใหม่ศิษย์พุทไธศวรรย์"