13 มิถุนายน, 2551

กราบรำลึกถึงพระคุณ ท่านอาจารย์ สมัย เมษะมาน โรงเรียนสำนักดาบพุทไธศวรรย์ แห่งกรุงศรีอยุธยา ( ครูดาบ ของผู้ฝึกสอน STAR FENCING CLUB )

วัดพุทไธศวรรย์ เดิมเคยเป็นเขตพระราชฐาน ในที่รู้จักกันว่า เวียงเหล็ก หรือเวียงเล็กซึ่งเดิมก็มีการฝึกดาบ กระบี่กระบองกันเป็นปกติวิสัย ล่วงถึงศักราชที่ 715 เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ ( พระเจ้าอู่ทอง ) ทรงสถาปนาพระตำหนักเวียงเหล็กนั้นเป็นพระอารามหลวง แล้วให้นามชื่อ “ วัดพุทไธศวรรย์ “ ในการต่อมาก็ได้มีการเล่าถึงสำนักดาบแห่งนี้ ซึ่งเปรียบเสมือนแหล่งวิชาแห่งแรกของไทย สั่งสอนอบรมศิลปะทุกแขนง แม้กระทั่งยุทธศาสตร์
ยุทธวิธีทางการเมือง การปกครอง แม้องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเอกาทศรถ พระเจ้าตากสิน พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระยาสุรสีย์บวรราชาเจ้าตลอดจนขุนพล ขุนศึก กำลังพล ต่างฝึกซ้อมอาวุธเพื่อเตรียมความพร้อมไว้ในยามศึก สืบเนื่องยาวนานดังปรากฎ ในบทเหเรือพยุหยาตราทางชลมารค ครั้งรัชกาลที่ 4 ส่วนข้อมูลลึกมากๆ คงต้องศึกษากันตามจดหมายเหตุอีกครั้ง

วัดพุทไธศวรรย์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ในตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดเก่าแก่
ในปี พ.ศ. 2310 วัดพุทไธศวรรย์ก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่มิได้ถูกพม่าทำลายเหมือนวัดอื่น ๆ ตามประวัติศาสตร์
เป็นที่พำนักพักพิงของยอดฝีมือดาบสองมือที่เลิศที่สุดในแผ่นดิน เรียกว่า “สำนักดาบพุทไธศวรรย์” เพราะที่นี่บรรดาแม่ทัพนายกองและทหารหาญ นิยมมาออกบวชเป็นพระภิกษุ บางรูปก็บวชไม่สึก ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นศูนย์รวมสรรพวิชาทั้งพุทธศาสนา วิชาอาคมและการปกครองมาตั้งแต่โบราณ

ณ ช่วงเวลาปัจจุบัน ผู้ซึ่งผลักดันให้ทุกคนได้รู้จักตำนานแห่งวัดพุทไธศวรรย์ที่ก้าวผ่านช่วงเวลามากว่า 650 ปี อาจารย์สมัย เมษะมาน ท่านเป็นชาวอยุธยาโดยกำเนิด และผูกพันกับวัดพุทไธศวรรย์ อย่างลึกซึ่ง ได้ใช้ช่วงเวลา ในชีวิตของท่าน เพียรสอนศิษย์ด้วยยุทธศาสตร์ ศาตราวุธ สำนักดาบพุทไธศวรรย์ และได้ขออนุญาตจดทะเบียนเป็นโรงเรียน ใช้ชื่อว่า “โรงเรียนสำนักดาบพุทไธศวรรย์ แห่งกรุงศรีอยุธยา ” ณ บริเวณสี่แยกบ้านแขก กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 6 พย.2500 ต่อมาได้ย้ายมาที่ ตั้งอยู่ที่สมาคมศิยย์เก่าสำนักดาพุทไธสวรรย์ เลขที่ 5/1 เขตหนองแขม กทม.1160 ติดถนนเพชรเกษมระหว่างซอยเพชรเกษม106-108 ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้สอนชมรม สตาร์เฟนซิ่ง ได้มีโอกาส
ร่ำเรียนวิชาดาบสองมือ และอาวุธโบราณของไทย ครั้งเมื่ออายุ 12 ปี จนกระทั่งเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ท่านอาจารย์ได้กรุณาศิษย์ทุกคน ถ่ายทอดความรู้ ภูมิปัญญาที่ท่านมีอยู่ ด้วยความเมตตา และทุกวันนี้ สิ่งที่ท่านสอน ได้มีส่วนเป็นอย่างมากในการนำมาใช้ถ่ายทอดให้กับนักฟันดาบสากลในชมรมสตาร์เฟนซิ่งรุ่น
ต่อๆมา ดาบหนึ่งในแผ่นดิน กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี คำกล่าวนี้เป็นจริงทุกยุคสมัย


ปัจจุบันคำเรียกสำนักดาบพุทไธศวรรย์ หรือพุทไธสวรรย์ เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น ถึงขนาดที่บางประเทศก็มีการสอนยุทธศาสตร์ ศาตราวุธ ที่นำเสนอว่าเป็น สำนักดาบพุทไธศวรรย์ อย่างเต็มภาคภูมิ ปัจจุบันก็ยังมีกลุ่มเยาวชนที่ใคร่ศึกษาในยุทธศาสตร์ด้านนี้ ทำการศึกษาอยู่ที่วัดพุทไธศวรรย์โดยเรียกขานว่า "ฟ้าใหม่ศิษย์พุทไธศวรรย์"

1 ความคิดเห็น:

เหิรหาว กล่าวว่า...

ดียิ่งแล้วที่ท่านแสดงมุทิตาจิตกราบรำลึกถึงพระคุณท่านพ่อครูสมัย เมษะมาน ผู้ทรงคุณูปการ

ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อป้องกันความสับสนของสาธารณะชน ครับ

ปัจจุบันสำนักดาบพุทไธสวรรย์ฯของท่านพ่อครูสมัย เมษะมานยังดำเนินการอยู่ในความดูแลของท่านแม่ครูขวัญยืน เมษะมาน(ภรรยาท่านพ่อครูสมัย)พร้อมทั้งบุคลลากรเดิมของท่านพ่อครูยังแข็งขันแน่นเหนียวด้วยกตัญญูตามความปราถนาของพ่อครูท่านครับ ซึ่งปัจจุบันย้ายจากหนองแขมมาตั้งอยู่ที่ ภูเขาทอง ซ.๙ พระนครศรีอยุธยา ครับ

ส่วนกลุ่มที่เรียกขานว่า "ฟ้าใหม่ศิษย์พุทไธศวรรย์"ซึ่งมักฉวยอ้างความเชื่อมโยงนั้น เรียนให้ทราบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวของกับกองอำนวยการบริหารสำนักดาบพุทไธสวรรย์ฯ ครับ

หากต้องการข้อมูลใดๆหรือประสงค์จะสนใจศึกษา ติดต่อโดยตรงที่ แม่ครูขวัญยืน เมษะมาน ๐๘๗ ๗๙๗๑๓๔๘ ครับ

ขอบคุณครับ